หลายๆคนคงเคยได้ยินคนพูดมานักต่อนักว่าให้หลีกเลี่ยงไขมันถ้าต้องการลดความอ้วน หรือลด เปอร์เซนต์ไขมันในร่างกาย จนบางครั้งทำให้คนเครียดจนเป็นโรคกลัวไขมันไปเลยก็มี แต่ไขมันไม่ได้มีแต่ส่วนเลวนะคะ เพราะด้านดีของไขมันก็มีแถมยังเป็นส่วนที่ช่วยให้เราประสพความสำเสร็จในการลดความอ้วนกันอีกด้วย เอาหล่ะ เรามาดูกันว่าการกินไขมันดีจริงหรือไม่ แล้วดีอย่างไร
ไขมันเผาผลาญไขมัน :Fat burns Fat ร่างกายของเรามีแหล่งพลังงานหลักอยู่สามอย่างคือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมัน โดยไขมันให้พลังงานมากกว่าอย่างอื่นถึงสองเท่าเลย และจากการค้นคว้า ของ American Journal of Clinical Nutrition พบว่า กรดไขมันช่วยเพิ่มการเผาผลาญ และนอกจากนี้ จากการค้นคว้าของคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ใน เซนต์หลุยส์ พบว่า การที่จะกำจัดไขมันเก่า (โดยเฉพาะที่สะสมอยู่ตามหน้าท้อง รอบเอว ต้นขา และก้น)ของเราออกไปจะต้องมีไขมันใหม่เข้ามาแทนที่ โดยไขมันใหม่จะไปช่วยกำจัดของเก่าผ่านออกไปทางตับ ไขมันทำให้คุณรู้สึกอิ่ม :Fat keeps you full ไขมันเป็นสารอาหารที่ย่อยยาก ดังนั้นมันจะเกาะอยู่ที่ระบบย่อยได้นานกว่าสารอาหารตัวอื่นๆทำให้คุณรู้สึกอิ่มได้นาน และจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยนาวารา ในประเทศสเปน พบว่า การรับประทานอาหาร(มื้อค่ำ) ที่ประกอบไปด้วยกรดไขมันประเภท Omega-3 สูงๆจะช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่มไปได้มากกว่าการกินอาหารแบบมีกรดไขมันต่ำถึง 2 ชั้วโมงเลยที่เดียว เพราะฉะนั้นไม่แปลกใจเลยที่คนที่ควบคุมอาหารให้มีระดับไขมันปานกลางจะเข้มงวดกับการวางแผนการรับประทานมากกว่าคนที่รับประทานอาหารแบบไขมันต่ำ ผลที่ได้??? น้ำหนักลด ไขมันทำให้คุณมีความสุข: Fat makes you happy การกินอาหารประเภทไดเอทฟูด ทำให้คนรู้สึกว่าไม่อร่อย และไม่อยากกิน ดังนั้นการกินอาหารที่อร่อยจะทำให้เรารู้สึกมีความสุข ไขมันเป็นสิ่งที่ทำให้เรารับรสได้แตกต่างไป 4 รสชาด หลักๆคือ เปรี้ยว เค็ม หวาน และขม โดยเฉพาะ โอเมก้า3 เป็นไขมันที่ช่วยเพิ่มระดับ seretonin ในสมอง ทำให้อารมณ์ดี เพิ่มวิสัยทัศน์ ช่วยให้เราลดอาการอยากกินอาหารในปริมาณมากๆ อีกด้วย ไขมันสร้างกล้ามนื้อ : Fat Build Muscles "การกินไขมันที่ดีร่วมกับการออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อในร่างกาย" คือคำพูดของ ราเชล คอสโกรฟ เทรนเนอร์และเจ้าของ Result Fitness ที่โด่งดังในอเมริกา และนอกจากนั้นจากผลการค้นคว้าที่เผยแพร่ใน ปี 2011 ของ Clinical Science พบว่าในการทดลองในผู้ใหญ่ อายุระหว่าง 25-45 ปี พบว่าไขมันช่วยเพิ่มความเข้มข้นของโปรตีนและขนาดของเซลล์กล้ามเนื้อในร่างกาย และจากการศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า Omega-3 ไปกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนทำให้ลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อลง เมื่ออายุเพิ่มขึ้นอีกด้วย ไขมันช่วยทำให้อาหารของคุณดีขึ้น : Fat makes your food better สารอาหารหลายอย่าง รวมทั้ง ไวตามิน A,D,E และ K ละลายในไขมัน นั่นหมายความว่า่างกายของเราจะไม่สามารถดูดซึมสารอาหารเหล่านี้ได้ถ้าปราศจากไขมัน ซึ่งการขาดไวตามินเหล่านี้จะทำให้ ผิวแห้ง การมองเห็นบอกพร่อง(หรืออาจรุนแรงถึงขั้นตาบอดได้) กระดูกพรุน กล้ามเนื้ออักเสบ และเป็นโรค เลือดไหลไม่หยุด จะเห็นว่าไวตามินเหล่านี้มีความจำเป็นและสำคัญต่อร่างกายของเรา อย่างเช่น ไวตามินE มีสารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยในการเผาผลาญ ไวตามินD มีผลต่อการลดไขมัน ดังนั้นเวลาที่เรากินสลัดที่ประกอบไปด้วยผักหลากหลายสี เราจึงต้องการไขมันดีอย่างOlive oil มาเป็นตัวนำสารเหล่านี้เข้าไปสู่ร่างกายของเราไงคะ เราควรหรือไม่ควรกินอะไรบ้าง เมื่อต้องการเพิ่มไขมันลงไปในอาหาร อาหารที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว หรือ Unsaturated Fatty Acid จะพบอยู่ในน้ำมันจากพืช เช่น พวกถั่วต่างๆ Olive oil เมล็ดพืชบางชนิด (เช่น flax seed) อโวคาโด หรือ ปลา และ อาหารทะเล อาหารเหล่านี้มี Omega-3 และ 6 หรือเรียกว่า " Essential fatty acids" ซึ่งดีต่อร่างกายของเรา อาหารที่มีกรดไขมันอิ่มตัว หรือ Sturated Fatty Acid จะพบอยู่ในไขมันจากสัตว์เป็นส่วนใหญ่ และพบในพืชบางชนิด เช่น มะพร้าวและปาล์ม สามารถกินได้ในปริมาณที่จำกัด ไขมันทรานส์ หรือ Trans fatty acid เป็นไขมันแปรรูป ทำให้มีลักษณะเป็นกึ่งของแข็งและสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน เช่น มาการีนหรือเนยเทียม ครีมเทียม น้ำมันถั่วเหลือง และ อาหารแปรรูปต่างๆเป็นอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะย่อยสลายได้ยากกว่าไขมันประเภทอื่นๆ และทำให้ตับต้องสลายไขมันด้วยวิธีการที่แตกต่างไปจากไขมันตัวอื่นซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะผิดปกติกับร่างกาย เห็นไหมหล่ะคะ ว่าของทุกอย่างมีสองด้านเสมอ รวมทั้งไขมัน เพียงแต่ว่าเราจะเลือกแบบไหนแค่นั้นเอง เพราะฉะนั้นอย่ารังเกียจ หรือกลัวไขมันจนรู้สึกว่ามันเป็นผู้ร้ายเลยค่ะ เพราะไขมันก็สามารถเป็นพระเอกได้เหมือนกันน้า
0 Comments
Here is another healthy food idea I have made last weekend and it came out delicious ...Yummy and goes great with a salad. Lots of fiber and protein, which makes it perfect for fatloss and baby spinach—rich in vitamins A and C and folic acid, which can help lower your blood pressure and reduce inflammation.
Ingredients 2 cups (2 ounces) baby spinach 1/4 cup finely chopped onion 1 teaspoons olive oil, divided 1 teaspoon minced garlic 1/3 cup chopped bell-pepper 1 tablespoon water 1/4 cup (1 ounce) pepper jack cheese 4 skinless-boneless chicken breast halves, trimmed and pounded thin into cutlets 8 sliced bacon Directions 1.Preheat the oven to 375 degrees F (190 degrees C). 2. PLACE the spinach in a large nonstick skillet with the washing water clinging to the leaves or a tablespoon or two of water if dried. Cover and cook for 2 minutes, tossing occasionally, or until wilted. Drain and press firmly with the back of a spoon or squeeze to remove excess moisture. There should be 1/2 cup spinach. Wipe out the skillet. 3. MEANWHILE, in a medium nonstick skillet, combine the onion, 1 teaspoon oil, garlic, bell-pepper , and 1 tablespoon water. Turn the heat to medium. Cook for about 2 minutes, or until the onion sizzles. Reduce the heat to low. Cover and cook, stirring once, for about 3 minutes, or until softened. In a small bowl, combine the onion mixture, cheese, and spinach. Stir to mix. Set aside. 4.Lay the chicken breasts out on a clean surface, and spoon some of the spinach mixture onto each one. Roll up chicken to enclose the spinach, then wrap each chicken breast with two slices of bacon. Secure with toothpicks, and arrange in a shallow baking dish. 5.Bake uncovered for 35 minutes in the preheated oven, then increase heat to 500 degrees F (260 degrees C), or use the oven's broiler to cook for an additional 5 to 10 minutes to brown the bacon. |
Archives
March 2023
Categories
All
|